จุดชี้ขาดความเป็นชาวพุทธเถรวาท คืออะไร?

          
ที่มา: https://goo.gl/aAMRO3

        เมื่อประมาณเดือนพ.ค. 59 ที่ผ่านมา มีบางท่านตั้งคำถามต่อประเด็นในร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ว่า ทำไมต้องกำหนดไว้ด้วยว่า "รัฐพึงส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาและการเผยแพร่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาท" พร้อมแสดงความกังวลว่า การกำหนดเนื้อหาดังกล่าวไว้จะทำเพิ่มความขัดแย้งให้สังคมไทย
โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้เหตุผลว่า
        “ที่ต้องกำหนดลงไปว่า เป็นพระพุทธศาสนาเถรวาท เพราะต้องการให้เกิดความชัดเจน เพราะเป็นนิกายที่คนไทยนับถือ เวลานี้ศาสนาพุทธมีหลายนิกายและนับวันจะมีนิกาย มีลัทธิใหม่ๆ ลัทธิแผลงๆ เกิดขึ้นมากมาย จึงต้องการให้กำหนดไว้ให้ชัดเจนว่า ศาสนาพุทธที่รัฐพึงสนับสนุน คือเถรวาท เพื่อรักษาพุทธแท้ตามพระไตรปิฎก ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับเสรีภาพในการนับถือศาสนาของประชาชน ทุกคนยังสามารถเลือกนับถือศาสนาใดก็ได้...”  (http://www.komchadluek.net/news/politic/228583)

          คำถามที่เกิดขึ้นในใจของชาวพุทธอย่างเราๆ ที่ไม่ได้อ่านมาก รู้มากเหมือนพระเปรียญหรือนักวิชาการศาสนา อยากรู้ว่าพระพุทธศาสนาเถรวาทมีลักษณะอย่างไร? ความรู้นี้ชาวพุทธเราควรรู้ไว้ไม่เสียหลาย...รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม....รู้ดีกว่าไม่รู้จริงไหมค่ะ? 


ที่มา: https://goo.gl/C2Sf7U

พระพุทธศาสนา เถรวาท ~ Theravada หรือหินยาน
       นิกายเถรวาท หรือ หินยาน เป็นนิกายเก่าแก่ที่สุด ยึดถือพระธรรมวินัยเดิมอย่างเคร่งครัด นับถือมากในไทย พม่า เขมร ลาว ศรีลังกา

คัมภีร์ของพระพุทธศาสนา
       เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานได้ 3 เดือน สาวกผู้ได้เคยสดับฟังคำสั่งสอนของพระองค์จำนวน 500 รูป ก็ประชุมทำสังคายนากัน ณ ถ้ำสัตบรรณคูหา ใกล้เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ สอบปากคำกันอยู่ 7 เดือน จึงตกลงประมวลคำสอนของพระพุทธเจ้าได้สำเร็จเป็นครั้งแรก นี่คือบ่อเกิดของคัมภีร์พระไตรปิฎก ต่อมาเมื่อมีปัญหาขัดแย้ง พระเถระผู้ใหญ่ก็ประชุมขจัดข้อขัดแย้งกัน เป็นสังคายนาต่อมาอีกหลายครั้ง จนได้พระไตรปิฎกของฝ่ายเถรวาทดังที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ ซึ่งถือกันทั่วไปว่าเป็นคำสอนโดยตรงของพระพุทธเจ้าที่นับว่าใกล้เคียงที่สุด
         เนื่องจากภาษามคธที่ใช้บันทึกคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า  นั้น ครั้นกาลเวลาล่วงไปก็ค่อยๆ กลายเป็นภาษาโบราณ ยากที่จะเข้าใจได้ทันทีสำหรับนักศึกษารุ่นหลังๆ จึงได้มีผู้เชี่ยวชาญนิพนธ์ชี้แจงความหมายเรียกว่า อรรถกถา เมื่อนักศึกษารู้สึกว่าอรรถกถายังไม่ชัดเจนก็มีผู้เชี่ยวชาญนิพนธ์ฎีกาขึ้นชี้แจงความหมาย และมีอนุฎีกาสำหรับชี้แจงความหมายของฎีกาอีกต่อหนึ่ง 
         ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะปัญหาก็นิพนธ์ชี้แจงเฉพาะปัญหาขึ้นเรียกว่า ปกรณ์ เหล่านี้ถือว่าเป็นคัมภีร์พระพุทธศาสนาทั้งสิ้น แต่ทว่ามีน้ำหนักน้อยกว่าพระไตรปิฎก เพราะถือว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ตีความ นักศึกษาจะเห็นกับบางคัมภีร์ และไม่เห็นด้วยกับบางคัมภีร์ก็ได้ ไม่ถือว่ามีความเป็นพุทธศาสนิกมากน้อยกว่ากันเพราะเรื่องนี้

"พระไตรปิฎก คือ คัมภีร์คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
แบ่งเป็น 3 หมวด คือ
1. พระสุตตันตปิฎก รวมคำสอนของพระพุทธเจ้า และพระสาวก
2. พระวินัยปิฎก ศีลของพระภิกษุ และพิธีกรรมทางศาสนา
3. พระอภิธรรมปิฎก รวมหลักธรรมชั้นสูง


ที่มา: https://goo.gl/vlepNy

พระไตรปิฎกฝ่ายเถรวาทเป็นภาษามคธ ฝ่ายมหายานเป็นภาษาสันสกฤต

หลักธรรมที่สำคัญ ได้แก่

>>>อริยสัจ 4 คือ ความจริงอันประเสริฐ 
>>>อริยมรรคมีองค์ 8 ได้แก่ ความเห็นชอบ, ความดำริชอบ, เจรจาชอบ, การงานชอบ, เลี้ยงชีพชอบ, เพียรชอบ, ระลึกชอบและตั้งใจชอบ สรุปย่อมรรคทั้ง 8 ข้อ ลงในหลักไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา

พิธีกรรมที่สำคัญทางพุทธศาสนา ได้แก่
>>> การบวช ได้แก่ บวชเณร เรียกว่า บรรพชา, บวชพระ เรียกว่า อุปสมบท
>>> การเวียนเทียน ในวันสำคัญ คือ วันวิสาขบูชา วันอัฏฐมีบูชา วันมาฆบูชา วันอาสาฬหบูชา

        จากที่ว่ามานั้นเป็น "การเฟ้นหาความต่างนี้เพื่อความรู้ ไม่ใช่เพื่อสร้างความไม่พออกพอใจต่อกันและกัน ทั้งมหายานและเถรวาทต่างก็มีสายเลือดอันเดียวกัน พิสูจน์ได้จากหลักคำสอนที่เป็นแกนหลักสำคัญ เช่น อริยสัจ 4 ปฏิจจสมุปบาท ความหลุดพ้น พระโคตมพุทธเจ้า จะมีความแตกต่างกันก็แต่เพียงปลีกย่อย ไม่ใช่สารัตถะสำคัญ เปรียบเหมือน พี่น้องท้องแม่เดียวกันเมื่อเจริญวัยต่างคนต่างไป ทำกิจการงานต่างๆ ย่อมมีวิธีการ และรสนิยมในการดำเนินชีวิตเพื่อความอยู่รอดที่ไม่เหมือนกัน แต่ก็ยังเป็นพี่เป็นน้องเป็นสายเลือดเดียวกัน ย่อมจะตัดขาดจากกันไม่ได้..."(พระใบฎีกาอนุรักษ์ อินฺทวณฺโณ)

หลักวินิจฉัยว่าใครคือพุทธเถรวาท
แล้วถามว่า


ที่มา: https://goo.gl/9OcT6V

- ชาวพุทธที่เคารพบูชาเจ้าแม่กวนอิมด้วย เป็นพุทธเถรวาทหรือไม่
- ชาวพุทธที่ตั้งศาลพระภูมิในบ้าน เป็นพุทธเถรวาทหรือไม่
- ชาวพุทธที่เชิญพราหมณ์มาประกอบพิธีในวาระโอกาสต่างๆ เป็นพุทธเถรวาทหรือไม่
- ชาวพุทธที่เคารพบูชาศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ต่างๆ เป็นพุทธเถรวาทหรือไม่
- ชาวพุทธที่สักยันต์ ดูหมอ ใบ้หวย นับถือกุมารทอง นางกวัก แม่ย่านาง ปลัดขิก บูชาราหู เป็นชาวพุทธเถรวาทหรือไม่
        แล้วถ้าตัดชาวพุทธเหล่านี้ออกหมด จะเหลือชาวพุทธไทยถึง 5% หรือไม่


หัวใจของพระพุทธศาสนาคือพระรัตนตรัย

          
หลักวินิจฉัยว่าใครคือพุทธเถรวาทหรือไม่อยู่ที่

     1. เขาเคารพบูชาพระพุทธเจ้าหรือไม่
     2. เขาเคารพบูชาพระธรรม ยอมรับคำสอนในพระไตรปิฎกหรือไม่
     3. เขาเคารพพระสงฆ์ ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบหรือไม่

        ถ้าเขายึดถือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด เขาก็คือพุทธเถรวาท แม้จะเคารพเจ้าพ่อ เจ้าแม่ อื่นๆบ้างก็ตาม
        ในครั้งพุทธกาล เพียงแค่นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์เปล่งวาจาขอถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ 3 รอบ ก็สำเร็จเป็นพระภิกษุแล้ว แม้ปัจจุบันก็สำเร็จเป็นสามเณร


ที่มา: https://goo.gl/IyVWZD


     การถึงไตรสรณาคมน์ คือ จุดชี้ขาดความเป็นชาวพุทธเถรวาท

        แม้ภิกษุก็เช่นกัน ขอเพียงถึงไตรสรณาคมน์ และผ่านการอุปสมบทถูกต้องตามพุทธบัญญัติก็เป็นพระภิกษุเถรวาท แม้บางรูปอาจมีสักยันต์บ้าง พระทางเหนือมีห้อยลูกประคำบ้างก็ตาม
หากมัวแต่คิดกีดกันคนที่คิด เชื่อบางอย่างไม่เหมือนตน ว่าไม่ใช่พุทธเถรวาท สุดท้ายจะเหลือแต่ตัวเองคนเดียว เพราะคนอื่นๆทุกคนจะต้องมีบางประเด็นที่คิดเชื่อต่างจากเราเสมอ
        ขนาดพระอรหันต์ยังมีบางประเด็นเห็นไม่ตรงกันเลย ใครไม่เชื่อลองไปเปิดพระวินัยปิฎกแปล(ฉบับ มจร) เล่ม 7 ข้อ 441 หน้า 382 ว่าด้วยเรื่องสิกขาบทเล็กน้อย ในคราวสังคายนาครั้งที่ 1 ของพระอรหันต์ 500 รูป


แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง คือทางมาแห่งความสามัคคี ความสงบร่มเย็น ความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนามาแต่โบราณ

การแสวงจุดต่าง พยายามแบ่งแยก ถือเขา ถือเรา คือทางมาแห่งความทะเลาะเบาะแว้ง แตกความสามัคคี ความเสื่อมของพระพุทธศาสนา


          อย่าเอาจุดต่างที่เขาเคารพบูชาบางอย่างไม่เหมือนเรามากีดกันว่าเขาไม่ใช่พุทธเถรวาท ไม่อย่างนั้นชาวพุทธเถรวาทไทยอาจเหลือไม่ถึง 5 % เป็นชนส่วนน้อยในประเทศไทย (พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑโฒ)

ทำอย่างไรจะเข้าถึงแก่นพระศาสนา 


ที่มา: https://goo.gl/YqMqSc
        ธรรมดาต้นไม้ใหญ่ย่อมมีทั้งใบอ่อน สะเก็ด เปลือก กระพี้และแก่น พระพุทธศาสนาซึ่งเปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่ ก็น่าจะมีเครื่องประกอบเหล่านี้ อะไรคือใบอ่อน สะเก็ด เปลือก กระพี้ และแก่นของพระพุทธศาสนา? ภิกษุในพระพุทธศาสนาควรจะปฏิบัติอย่างไร จึงจะเข้าถึงแก่นพระศาสนา?

        พุทธดำรัสตอบ “กุลบุตรบางคนในโลกนี้ มีศรัทธาออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ด้วยคิดว่า เราเป็นผู้อันชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส ท่วมทับแล้ว ถูกความทุกข์ท่วมทับแล้ว มีความทุกข์เป็นเบื้องหน้า ไฉนหนอ ความกระทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ จะพึงปรากฏ เขาบวชอย่างนั้นแล้ว ยังลาภสักการะและความสรรเสริญให้บังเกิดขึ้น เขามีความยินดี มีความดำริเต็มเปี่ยม ด้วยลาภสักการะและความสรรเสริญนั้น...เขาย่อมยกตนข่มผู้อื่นว่า เรามีลาภสักการะและความสรรเสริญ ส่วนภิกษุอื่นนอกนี้ ไม่ปรากฏ มีศักดาน้อย อนึ่ง เขาไม่ยังฉันทะให้เกิด ไม่พยายาม เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมเหล่าอื่นอันยิ่งกว่าและประณีตกว่าลาภสักการะและความสรรเสริญนั้น ทั้งเป็นผู้มีความประพฤติย่อหย่อน ท้อถอย เปรียบเหมือนบุรุษคนนั้น ที่มีความต้องการแก่นไม้ แสวงหาแก่นไม้ เที่ยวเสาะหาแก่นไม้อยู่ เมื่อต้นไม้ใหญ่มีแก่นตั้งอยู่ ละเลยแก่น ละเลยกระพี้ ละเลยเปลือก ละเลยสะเก็ดไปเสีย ตัดเอากิ่งและใบถือไป สำคัญว่าแก่น และกิจที่จะพึงทำด้วยไม้แก่นของเขา จักไม่สำเร็จประโยชน์แก่เขา...” 

          ในจูฬสาโรปมสูตรนั้นมีเนื้อหาแสดงไว้ค่อนข้างยาวแต่พอสรุปได้สั้นๆ ว่า “ลาภสักการะชื่อเสียงเปรียบเหมือนกิ่งไม้ใบไม้ ความสมบูรณ์ด้วยศีลเปรียบเหมือนสะเก็ดไม้ ความสมบูรณ์ด้วยสมาธิเปรียบเหมือนเปลือกไม้ ญาณทัศนะหรือปัญญาเปรียบเหมือนกะพี้ไม้ ความหลุดพ้นแห่งใจอันไม่กลับกำเริบเปรียบเหมือนแก่นไม้” 

          พระพุทธศาสนาเปรียบเหมือนต้นไม้ใหญ่ ที่มีราก กิ่งก้าน สาขา ใบ ดอก ผล ทุกส่วนมารวมกันจึงกลายเป็นต้นไม้ที่สมบูรณ์ได้ ที่จะพยุงต้นไม้นี้ไว้ให้ยืนหยัดอยู่ยาวนานต่อไป หากขาดส่วนใดส่วนหนึ่งก็กลายเป็นต้นไม้ที่ไม่สมบูรณ์รอวันเหี่ยวเฉาไปกับกาลเวลา พระพุทธศาสนาก็ย่อมจะมีหลายสิ่งหลายอย่างรวมอยู่ด้วยกัน

          ผศ.ร.ท.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ เคยกล่าวไว้ว่า "ต้นไม้ใหญ่ยืนต้นอยู่ได้ไม่ใช่มีแต่แก่น แต่มันยังมีเปลือกอยู่ร่วมด้วยและเปลือกนั้นก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์ไร้ค่าเสียทีเดียว สถาบันพระพุทธศาสนาก็คือต้นไม้ใหญ่ย่อมต้องมีเปลือกเป็นธรรมดา และเปลือกนั้นแม้จะมีกาฝากเกาะติดบ้างแต่เราก็สามารถทำกาฝากให้เป็นปุ๋ยได้ในโอกาสต่อไป" 



          ดังนั้น โปรดอย่าเอาทิฏฐิตนมาจับผิด ตั้งแง่ที่จะทำร้ายกิ่งอื่น หักรานกิ่งอื่น แทนที่เราจะมาเคร่งครัดกับข้อวัตรปฏิบัติตามหลักธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือครูบาอาจารย์ที่เราเคารพเลื่อมใสศรัทธา แล้วฝึกฝนตนเองจนบรรลุผลแห่งความเพียรและบุญบารมีที่แต่ละคนสั่งสมมาในอดีต ทำเช่นนี้จะได้ชื่อว่าเป็นชาวพุทธที่แท้จริง และมีส่วนช่วยผดุงรักษาต้นไม้ใหญ่ คือพระพุทธศาสนาให้ยืนหยัด เจริญงอกงามสืบไป

                                                                      มะลิ สไมล์

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง:
1. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=12&A=6505&Z=6695)
2. https://mobile.facebook.com/story.php?story_fbid=477922195739335&id=301226330075590
3. http://dbuddhist.com/contentfront003.html
4. http://www.dhammathai.org/buddhism/theravada.php
5. http://www.komchadluek.net/news/politic/228583
6. http://cybervanaram.net/2009-12-17-14-44-23-14/439-2011-03-22-03-14-59

จุดชี้ขาดความเป็นชาวพุทธเถรวาท คืออะไร? จุดชี้ขาดความเป็นชาวพุทธเถรวาท คืออะไร? Reviewed by Mali_Smile1978 on 03:55 Rating: 5

27 ความคิดเห็น:

วุฑฺฒิชโย กล่าวว่า...

แม้หมอและพยาบาลยังมีเฉพาะทาง แต่ท่านเหล่านี้ก็ยังทำหน้าทีช่วยคนให้พ้นทุกข์
ส่วนพระในนิกายต่างๆ ก็ทำหน้าทีในการเผยแผ่ให้คนได้พ้นทุกข์ด้วยธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เปิดใจทำใจกว้างๆ เพียงสนับสนุนให้ท่านได้ทำงาน ให้ทำงานเผยแผ่ตามแนวทางของท่านได้ไหม

Unknown กล่าวว่า...

สาธุครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณข้อความ เนื้อหาที่มีสาระ มีแหล่งข้อมูลอ้างอิง น่าเชื่อถือ

อ่านแล้วกระจ่างเลยค่ะ


เราไม่ควรแบ่งแยก ทำให้เกิดความไม่สามัคคีกันจริงๆ

Niralayo กล่าวว่า...

พระพุทธองค์ทรงเปรียบเสมือนพ่อที่รักลูก ย่อมปรารถนาที่จะเห็นลูกๆ คือคณะสงฆ์มีความสามัคคีกัน ไม่จับผิด ไม่จ้องทำลายกัน แต่ทรงสอนให้อยู่ร่วมกันด้วยเมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม เสมอ

Unknown กล่าวว่า...

#พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดีบวกัน
เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว

Unknown กล่าวว่า...

การถกเถียงจนเกิดวิวาทะกัน อาจนำไปสู่ความแตกแยกได้ แต่ถ้าหากไม่ได้ลงมือปฏิบัติเพื่อศึกษาและพิสูจน์สัจธรรมด้วยแล้ว ก็ย่อมสูญเปล่า เป็น "โมฆะบุรุษ" ฯ

AtLastYouWin กล่าวว่า...

จะสนับสนุนพระพุทธศาสนาทั้งที ทำไมต้องเลือกปฏิบัติ จะสนับสนุนหรือทำลายกันแน่

Unknown กล่าวว่า...

คำสอนของพระพุทธศาสนามีเหตุและผล ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

Unknown กล่าวว่า...

ธรรมสอนสั่งหยั้งใจให้เป็นสุข
ธรรมช่วยทุกข์หมดไปใจสุขศานติ์
ธรรมรักษาจิตใจให้เบิกบาน
ธรรมบันดาลให้สุขตลอดไป
ชัยชนะพระธรรมนำดวงจิต
ชัยชนะพิชิตจิตผ่องใส
ชัยชนะหมู่มารทุกชาติไป
ชัยชนะให้พระชนะมาร...

Unknown กล่าวว่า...

สาธุ

Unknown กล่าวว่า...

คำตอบที่ชัดเจนมากๆ กราบอนุโมทนาบุญค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

สาธุค่ะ

Mongkhon กล่าวว่า...

สาธุครับ

Unknown กล่าวว่า...

สาธุค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

สาธุค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

สาธุค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

สาธุค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

สาธุครับ

ดอกไม้ จันทวงศ์ษา กล่าวว่า...

หลักวินิจฉัยว่าใครคือพุทธเถรวาทหรือไม่อยู่ที่

เขาเคารพบูชาพระพุทธเจ้าหรือไม่
เขาเคารพบูชาพระธรรม ยอมรับคำสอนในพระไตรปิฎกหรือไม่
เขาเคารพพระสงฆ์ ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบหรือไม่
พระอาจารย์ให้หลักวินิจฉัยชัดเจนมากค่ะ

Lee กล่าวว่า...

พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกันมิควรแตกแยก

mongkoll กล่าวว่า...

จุดชี้ขาดของพุทธเถรวาทคือ การมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด
ส่วนใครจะผิดเพี้ยนไปนับถืออย่างอื่นบ้างแต่ก็ยังเข้าวัดฟังธรรมตามโอกาส ก็ช่างเขาเถอะแค่เขาเป็นคนดีไม่เบียดเบียนคนอื่นก็พอแล้ว

Unknown กล่าวว่า...

ชัดเจนค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

#วัดพระธรรมกายเป็นพุทธเถรวาทโดยแท้# เพราะสอนให้ยึดพระรัตนตรัย... เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด... ที่แท้จริงของเราทั้งหลาย... สิ่งอื่นนอกจากนี้ไม่ใช่สรณะ...สอนทั้งปริยัติ...ปฏิบัติ...ปฏิเวส...เทศน์สอนแผยแผ่ธรรมตามพระไตรปฎก

Unknown กล่าวว่า...

#วัดพระธรรมกายเป็นพุทธเถรวาทโดยแท้# เพราะสอนให้ยึดพระรัตนตรัย... เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด... ที่แท้จริงของเราทั้งหลาย... สิ่งอื่นนอกจากนี้ไม่ใช่สรณะ...สอนทั้งปริยัติ...ปฏิบัติ...ปฏิเวส...เทศน์สอนแผยแผ่ธรรมตามพระไตรปฎก

Dungding กล่าวว่า...

ถ้าเขายังนับถือเคารพในพระรัตนตรัย เขาก็เป็นเถรวาท อย่าถือโอกาสจ้องจับผิดเลยค่ะ ปรับเป็นช่วยส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแทนจะดีกว่ามากเลยค่ะ

mos072 กล่าวว่า...

พวกที่ออกมาบัญญัติรัฐธรรมนูญว่าจะสนับสนุนพุทธเถรวาท แล้วพุทธนิกายอื่นในไทยจะคิดอย่างไร นี้คือการทำสังฆเภทโดยแท้ ส่วนศาสนาอื่นไม่เห็นบอกว่าจะสนับสนุนแต่สุหนี่ หรือสนับสนุนแต่โรมันคาทอลิก บ้างหละ

อรรคพล พูนสิน กล่าวว่า...

เหตุใดศาสนาพุทธจึงล่มสลายที่ชวา อินเดีย ปากีสุาน อาฟกานิสถาน เกิดจากพระสงฆ์ใช่หรือไม่

ขับเคลื่อนโดย Blogger.