รวมสงฆ์สวดมนต์ครั้งใหญ่...ปัดภัยรุกรานพระศาสน์

       

พระเมธีธรรมาจารย์

       พระเมธีธรรมาจารย์ หรือ เจ้าคุณประสาร จันทสาโร เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย เตรียมจัดสวดมนต์ครั้งใหญ่ หลังวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 7 ส.ค.นี้ กรณีไม่มีความคืบหน้าการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช... (http://mcot-web.mcot.net/9ent/view.php?id=57a41368938163818e8b4616)

       อ่านข่าวนี้ ตัวข้าพเจ้าเองในฐานะเป็นชาวพุทธ นับถือพระพุทธศาสนามา ตั้งแต่เด็กๆ ทุกเช้าจะเห็นยาย นึ่งข้าวเหนียวใส่กระติบข้าว และทำกับข้าวร้อนๆ ใส่ปินโต แต่งตัวงามๆ ใส่ผ้าสไบสีขาวคาดเฉวียงบ่าแล้วหาบภัตตาหารใส่ไม้คานเดินมุ่งหน้าไปวัดทุกๆ วัน จนชินตาฝังใจ บางวันข้าพเจ้าก็จะเดินติดสอยห้อยตามยายไปด้วย ไปกินข้าววัดอร่อยดี หลากหลายรสชาด...555 คิดถึงชีวิตตอนเด็กๆ แล้วมีความสุข จึงทำให้เรารักและเห็นคุณค่าของพระภิกษุ หลวงพ่อ หลวงปู่ หลวงตา ผู้เป็นเนื้อนาบุญ เห็นคุณค่าของวัดวาอารามค่ะ

       เมื่อมาถึงยุคนี้ จะว่าเป็นยุคเข็ญแห่งศรัทธาก็ดูแล้วคล้ายๆ นะเพราะเห็นแต่ข่าวร้ายๆ สร้างความเสื่อมเสีย ใส่ร้าย สร้างคดีให้พระ สื่อก็ลงทุกวันประโคมข่าวกันมันส์ จากประเด็นเล็กๆ ก็ตีความ โหมประเด็นให้ดูเป็นเรื่องราวใหญ่โต เห็นชัดๆ ตัวอย่างเรื่องรถโบราณจอดไว้ในพิพิธภัณฑ์ มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร? กลับกลายเป็นคดีใหญ่ ขั้นวาระแห่งชาติกันเลยทีเดียว 

       ทั้งที่ความเป็นจริงตามหลักพระธรรมวินัย พระท่านแค่ปลงอาบัติ เรื่องก็จบแล้ว เพราะพระท่านไม่มีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ โยมมาถวายท่านก็รับไว้ ยิ่งหนำซ้ำเอาไว้เป็นประโยชน์ของส่วนรวม คือรถโบราณเหล่านี้จอดไว้ในพิพิธภัณฑ์ไว้เพื่อการศึกษาและประวัติศาสตร์...สื่อก็เผลอสติหรือตั้งใจเจตนามิทราบใช้คำพูดที่ไม่สุภาพ ไม่เหมาะสม ขาดความเคารพสัมมาคารวะต่อพระสงฆ์...นี้เมืองพุทธนะ พระภิกษุ คือหนึ่งในพระรัตนตรัย ที่ชาวพุทธเคารพนับถือว่าเป็นพึ่งที่ระลึกอันสูงสุด....

        ตามที่เจ้าคุณประสาร จันทสาโร ท่านได้ส่งสารไปถึงพระสงฆ์ทั่วประเทศ ทั่วโลก เชิญชวนให้มารวมกันสวดมนต์ ข้าพเจ้าได้ข่าวแล้วรู้สึกปีติ แวบแรกที่รู้สึกคือ สงฆ์มารวมกันเยอะๆ มาสวดมนต์ย่อมดีแน่ และยิ่งกว่านั้น สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพระพุทธศาสนาตอนนี้ก็ไม่ใคร่จะดีนัก โอกาสนี้จะทำให้พระสงฆ์และประชาชน จะมารวมตัวกันเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา จึงน่าอนุโมทนาบุญค่ะ เพราะ....

>>> สงฆ์แปลว่าหมู่ สงฆ์ หรือ สงฺฆ ในภาษาบาลีแปลว่า หมู่ เช่นในคำว่าภิกษุสงฆ์ แปลว่า หมู่ภิกษุ มารวมกันสวดมนต์ จะผิดอะไรหรือ? ทำไมจะทำไม่ได้? 

>>> ถ้าสงฆ์รวมหมู่สวดมนต์ กำจัดภัยพาลที่กำลังมารุกรานพระพุทธศาสนา จะผิดกฎหมายบ้านเมืองได้อย่างไร? ท่านไม่ได้มีเจตนาลามก คิดระรานผลาญชาติ หรือจะก่อความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในสังคมแม้แต่น้อย แต่สงฆ์ทำกิจกรรมอย่างบัณฑิตในกาลก่อนที่เคยทำมา มิใช่เรื่องแปลกใหม่หรือแตกต่าง ปกติกิจกรรมสวดมนต์ พระภิกษุสงฆ์แต่ละรูป แต่ละวัดก็ทำเป็นกิจวัตรประจำวันของท่านอยู่แล้ว 

>>> แต่ที่ท่านปรารถนาจะมาสวดมนต์ เจริญจิตตภาวนารวมกันเป็นหมู่ใหญ่ ก็หวังให้เกิดพลังหมู่ พลังแห่งความสามัคคี สร้างบุญใหญ่เอาพลังความดี พลังความบริสุทธิ์ พลังแห่งพระรัตนตรัย มาขับขจัดปัดเป่าภัยพาล เพื่อความระงับเหตุการณ์ที่จะนำความแตกแยก เสียหายที่กำลังเกิดขึ้นกับหมู่สงฆ์และพระพุทธศาสนา...ข้าพเจ้ามองว่าเป็นสิ่งที่สมควรทำและน่ายกย่องอนุโมทนาอย่างยิ่ง

>>> การรวมสงฆ์ หวังเพื่อไประงับเหตุเภทภัย ที่จะก่อความเสียหายให้แก่พระพุทธศาสนา หรือจะมีเหตุมาทำลายความสงบในหมู่สงฆ์ ดังนั้นเรื่องการรวมสงฆ์จึงมิใช่เรื่องแปลกประหลาด หรือผิดพระธรรมวินัยแต่ประการใด แต่เป็นกิจที่มีแต่โบราณกาล เป็นกิจที่หมู่สงฆ์ควรกระทำ ดั่งเรื่องราวในสมัยพุทธกาล ภรุราชชาดกที่ว่าด้วยเรื่อง พวกเดียรถีย์สร้างวัดใกล้กับวัดพระเชตวัน 

พวกเดียรถีย์เข้าใจว่า พระศาสดาเจริญด้วยลาภและยศเพราะได้สถานที่ดี หากพวกตนสร้างวัดให้ใกล้กับวัดพระเชตวันมหาวิหารก็จะเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยลาภและยศเช่นกัน พวกเดียรถีย์จึงพาอุปัฏฐากไปถวายสินบนแก่พระเจ้าปเสนทิโกศล พระองค์ทรงรับสินบนและอนุญาตตามที่พวกเดียรถีย์ทูลขอ

พระศาสดาทรงทราบ จึงตรัสกับพระอานนท์ว่า พวกเดียรถีย์จะทำให้หมู่ภิกษุอยู่ไม่เป็นสุข ให้ไปทูลพระราชาให้ขับพวกเดียรถีย์ออกไป พระอานนท์ไปขอพบ แต่พระราชามิได้เสด็จออกมา พระศาสดาทรงทราบ จึงส่งพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะไปขอพบ พระราชาก็ไม่ทรงให้พระเถระทั้งสองเข้าเฝ้า

วันต่อมา พระศาสดาพร้อมหมู่ภิกษุได้เสด็จไป พระราชาทรงต้อนรับและถวายภัตตาหาร พระศาสดาเสวยภัตตาหารแล้ว   จึงทรงนำเรื่องในอดีตมาตรัสเล่าว่า
ในอดีต พระราชาองค์หนึ่งเห็นแก่สินบน  ทำให้ดาบสทั้งหลายแตกกัน เป็นเหตุให้พระราชา และแว่นแคว้นจมลงในมหาสมุทร เมื่อพระราชาทรงตรองตามแล้ว จึงยกเลิกไม่ให้พวกเดียรถีย์ไปสร้างวัดใกล้กับวัดพระเชตวันมหาวิหาร (พระไพบูลย์    ธมฺมวิปุโล  และคณะ. ดัชนีธรรม, 2545.)

>>> พระพุทธองค์ให้ความสำคัญต่อความสามัคคีจึงตรัสไว้ว่า “สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี” ความพร้อมเพรียงของหมู่ให้เกิดสุข ตัวอย่างเรื่องความสามัคคีที่ชัดเจน จากเรื่องพระเจ้าอชาตศัตรูพยายามไปตีเมืองเวสาลี ที่เจ้าลิจฉวีปกครองถึง 11 ครั้งก็ไม่แตก เพราะมีความพร้อมเพรียงนัก จึงทูลถามพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงจำเป็นต้องตอบเป็นกลางว่า เมืองไหน หมู่ไหน เขาสามัคคีกลมเกลียวกัน เมืองนั้นหมู่นั้นเขาก็มีกำลังมาก ทำอะไรเขาไม่ได้....ดังนั้นการที่สงฆ์มารวมหมู่เพื่อสวดมนต์ สามัคคีจึงคือพลังที่จะยับยั้งภัยต่างๆ และร่วมกันรักษาปกป้องพระพุทธศาสนาไว้ให้เจริญ มั่นคงสืบไป....ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองควรยินดีและให้การสนับสนุน หรืออำนวยความสะดวกต่อหมู่ภิกษุสงฆ์มิใช่หรือ? 

>>> หลวงปู่วัดปากน้ำท่านก็เทศนาไว้ว่า “ประเทศหรือหมู่คณะไหน สามัคคีพร้อมเพรียง ใครทำอะไรก็ไม่แตกกัน ข่มเหงก็ไม่ได้” (สาระสำคัญ พระธรรมเทศนา พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร), 2541: 191) ดังนั้น เมื่อเราชาวพุทธทั้งหลาย พระภิกษุสงฆ์ทั้งปวงต่างตระหนัก รับรู้ถึงเภทภัยที่กำลังคุกคามพระสงฆ์ คุกคาม ทำลายพระพุทธศาสนา เหตุการณ์ยิ่งทวีหนักขึ้นทุกวันๆ จะให้พระท่านนั่งเฉยๆ อยู่ที่วัด หรือชาวพุทธนอน นั่งอยู่ที่บ้านโดยไม่สนใจ ไม่ทำอะไร จะใช้ได้หรือ?

>>> ถือกฎหมาย ถือกฎระเบียบของบ้านเมือง หมู่สงฆ์ท่านถือยิ่งกว่านั้นคือพระธรรมวินัย 
       ขอถามผู้มีอำนาจในบ้านเมืองตอนนี้ว่า โดยหลักการและประโยชน์ของกฎหมายมีไว้เพื่อ สร้างความเป็นธรรม หรือความยุติธรรมให้แก่สังคม รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และศีลธรรมอันดีของประชาชนมิใช่หรือ? แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย สังคมก็วุ่นวาย เพราะกฎหมายเป็นหลักกติกาที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติเสมอภาค เท่าเทียมกัน ดังนั้นถ้าหมู่ภิกษุท่านจะรวมหมู่ ร่วมใจกันมาเพื่อสวดมนต์เจริญภาวนา มันจะผิดกฎหมายไปได้อย่างไร?

ขอขอบคุณ: https://www.facebook.com/ck.prasarn/
                    https://goo.gl/3dPkIe